ประวัติและความเป็นมาของโปรแกรม Adobe Photoshop
1. จุดเริ่มต้น (1987-1990): การพัฒนาและเปิดตัวครั้งแรก
ในปี 1987, Thomas Knoll นักศึกษาปริญญาเอกด้านคอมพิวเตอร์กราฟิกที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน ได้สร้างโปรแกรมที่ชื่อว่า Display เพื่อใช้ดูภาพขาวดำบนจอคอมพิวเตอร์ Macintosh
ต่อมา John Knoll, พี่ชายของเขาซึ่งทำงานที่บริษัท Industrial Light & Magic (ILM) มองเห็นศักยภาพของโปรแกรมนี้ และได้ช่วยพัฒนาให้รองรับสีและฟีเจอร์ที่ซับซ้อนขึ้น
ปี 1988, พี่น้อง Knoll ได้นำซอฟต์แวร์ไปเสนอขายให้กับบริษัท Adobe Systems
ปี 1990, Adobe เปิดตัว Photoshop 1.0 สำหรับระบบปฏิบัติการ Macintosh โดยมาพร้อมกับเครื่องมือพื้นฐาน เช่น การตัดต่อ การทำเลเยอร์ และการแก้ไขสี
2. การเติบโตและการพัฒนา (1990-2000): Photoshop ยุคแรก
ในยุคนี้ Adobe Photoshop ได้กลายเป็นมาตรฐานของวงการกราฟิก โดยมีการเปิดตัวหลายเวอร์ชัน เช่น:
Photoshop 2.0 (1991): เพิ่มฟีเจอร์ Paths และรองรับ CMYK
Photoshop 3.0 (1994): เปิดตัวระบบ Layers ซึ่งเปลี่ยนแปลงการออกแบบอย่างมาก
Photoshop 5.0 (1998): เพิ่มฟีเจอร์ History Palette และ Magnetic Lasso
3. ยุคใหม่ของ Photoshop (2000-2010): Creative Suite และการปฏิวัติวงการดิจิทัล
Adobe ได้รวม Photoshop ไว้ในชุดซอฟต์แวร์ Adobe Creative Suite (CS) ซึ่งออกเวอร์ชันใหม่ดังนี้:
Photoshop CS (2003): ปรับปรุงเครื่องมือแก้ไข RAW และรองรับการทำงาน 16 บิต
Photoshop CS2 (2005): เปิดตัวฟีเจอร์ Smart Objects
Photoshop CS3 (2007): ปรับปรุงประสิทธิภาพและรองรับ 64-bit สำหรับ Windows
Photoshop CS5 (2010): เปิดตัว Content-Aware Fill ช่วยเติมส่วนของภาพอัตโนมัติ
4. ยุค Creative Cloud (2013-ปัจจุบัน): Subscription Model และ AI Integration
ในปี 2013, Adobe เปลี่ยนไปใช้ระบบสมัครสมาชิกผ่านบริการ Adobe Creative Cloud (CC) แทนการขายซอฟต์แวร์แบบถาวร
ฟีเจอร์เด่นในยุคนี้ ได้แก่:
Photoshop CC 2015: เพิ่ม Artboards และเครื่องมือแก้ไข 3D
Photoshop CC 2018: เปิดตัวฟีเจอร์ Select Subject (AI-powered)
Photoshop 2021: เพิ่ม Neural Filters ที่ใช้ AI ช่วยในการตกแต่งภาพ
Photoshop 2023-2024: ฟีเจอร์ Generative AI เช่น Generative Fill และ Text to Image
5. Photoshop ในปัจจุบันและอนาคต
ปัจจุบัน Photoshop ได้ขยายไปยังอุปกรณ์มือถือ (Photoshop Express) และระบบคลาวด์เพื่อการใช้งานที่ยืดหยุ่นขึ้น
มีการผสมผสาน AI อย่างลึกซึ้งเพื่อช่วยให้นักออกแบบสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
1 Comments
ว่าด้วยเรื่องนี้แล้ว นะครับ ชอบๆๆ ขอบคุณมากๆครับ ที่ให้ความรู้
ตอบลบ<<<
http://smsuper-micro.com